7 อันดับ Marshall Stanmore Ii ราคา|359 รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2568

ลําโพงบลูทูธ Marshall Stanmore II ของเเท้ - รับประกัน 1 ปี เปลี่ยนสินค้าทันทีเมื่อเสียภายใน 7 วัน

Marshall marshall stockwell 2 Marshall รุ่น Stanmore II เป็นลําโพงไร้สายขนาดกลาง โดยในรุ่นนี้ก็มีการปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูเรียบหรูยิ่งขึ้นกว่าเดิม สวยกว่าเดิม มาพร้อม Bluetooth 5.0 Marshall Stanmore II เครื่องหิ้ว ของใหม่ของแท้รับประกันร้าน 1 เดือน รับประกันศูนย์นอก 1 ปี Marshall Stanmore II เป็นลําโพงตั้งโต๊ะขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป โดยจะเป็นรุ่นที่มีขนาดอยู่ระหว่างรุ่น Acton II และ Woburn II มีกําลังขับ 80 วัตต์ ลูกบิดจะมีทั้งหมด 3 อันสําหรับใช้ปรับระดับเสียง, เบส, แหลม ส่วนสวิตซ์เปิด-ปิดดนั้นจะออกแบบใหม่ โดยเป็นแบบสปริงที่จะคืนกลับมาตําแหน่งเดิม เชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 หรือจะเสียบสาย AUX 3.5mm เพื่อใช้งานแบบเสียบสายก็ได้ ซึ่งในรุ่น Stanmore จะมีการเพิ่มช่อง RCA สําหรับเชื่อมต่อที่ด้านหลังเครื่องเข้ามา อุปกรณ์ในกล่อง 1 x Marshall Stanmore II 1 x สายไฟ 1 x คู่มือการใช้งานเบื้องต้น การเชื่อมต่อ Bluetooth Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อรวดเร็ว AUX 3.5mm เชื่อมต่อผ่านแจ๊คขนาด 3.5 มม RCA เชื่อมต่อผ่านแจ๊ค RCA ที่ด้านหลังเครื่อง ฟังก์ชั่นการใช้งาน การใช้งาน Marshall Stanmore จะไม่มีแบตเตอรี่สําหรับพกพา ต้องเสียบปลั๊กใช้งานเพียงอย่างเดียว สําหรับการจับคู่เข้ากับอุปกรณ์อื่นๆนั้นสามารถทําได้โดยการกดปุ่ม input ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาทีก็พร้อมที่จะจับคู่แล้ว ภายในของลําโพง Marshall Stanmore II จะประกอบไปด้วย tweeter จํานวนสองตัว พร้อมภาคขยายกําลังขับ 15 วัตต์ แยกกันทั้ง 2 channel และ woofer อีกหนึ่งตัวพร้อมภาคขยายกําลังขับ 50 วัตต์ คุณภาพเสียง เสียงเบส-เบสที่ให้ปรุงแต่งเพิ่มเติมได้ผ่านปุ่ม EQ แต่รวมๆแล้วแม้ไม่ลูกโตและหนาแต่แลกมาด้วยอิมแพคแรงปะทะที่ทรงพลังฟังสนุกสุดเหวี่ยง เสียงร้อง-เสียงกลางให้เนื้อเสียงที่เข้มข้น มีความเป็นกลาง ไม่หนา หรือ บางจนเกินไปนัก เป็นเสียงร้องที่สดใส สะอาด เสียงแหลม-ย่านเสียงแหลมถือว่าพอดี ไม่ด้วนจนฟังแล้วหมดอารมณ์ หรือพุ่งพล่านจนแสบหู เป็นแหลมที่พริ้วไหวฟังสนุกมากๆ เวทีเสียง-การแยกรายละเอียด ของชิ้นดนตรีต่างๆนับว่าเฉียบขาด ไม่มีการซ้อนทับกัน เสตจกว้างกําลังดีฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปพร้อมกับเสียงเพลง รูปทรงวินเทจ วางตรงไหนก็สวย สรุปเกี่ยวกับลําโพง Marshall Stanmore II Marshall Stanmore II เป็นลําโพงที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียง แต่ยังมาพร้อมกับความสวยหรู ดูคลาสสิคมาก ไม่ว่าจะวางในห้องแบบไหนก็เข้ากัน ให้เสียงที่ทรงพลัง ฟังสนุกมาก

***ลําโพงของทาง Marshall ทุกตัวจะถูกเปิดกล่องจากทางศูนย์ไทย เพื่อทําการติดสติ๊กเกอร์ มอก และเปลี่ยนสายไฟภายในกล่องให้เป็นแบบที่ใช้งานในไทยครับ ดังนั้นที่ตัวกล่องจะถูกเทปปิดทับใหม่ทุกตัวจ้าๆๆ*** ลําโพงจากทาง Marshall ในรุ่น Stanmore II เป็นลําโพงไร้สายขนาดกลางนั่นเองครับ โดยในรุ่นนี้ก็มีการปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูเรียบหรูยิ่งขึ้นกว่าเดิมเช่นเดียวกันครับ สวยกว่าเดิม มาพร้อม Bluetooth 5.0 การออกแบบและบรรจุภัณฑ์ สําหรับลําโพง Marshall Stanmore II นั้นเป็นลําโพงตั้งโต๊ะครับ ขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป โดยจะเป็นรุ่นที่มีขนาดอยู่ระหว่างรุ่น Acton II และ Woburn II นั่นเอง มีกําลังขับ 80 วัตต์ ลูกบิดจะมีทั้งหมด 3 อันสําหรับใช้ปรับระดับเสียง, เบส, แหลมครับ ส่วนสวิตซ์เปิด-ปิดดนั้นจะออกแบบใหม่ โดยเป็นแบบสปริงที่จะคืนกลับมาตําแหน่งเดิม เชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 หรือจะเสียบสาย AUX 3.5mm เพื่อใช้งานแบบเสียบสายก็ได้ ซึ่งในรุ่น Stanmore จะมีการเพิ่มช่อง RCA สําหรับเชื่อมต่อที่ด้านหลังเครื่องเข้ามาให้ด้วยครับ อุปกรณ์ในกล่อง • 1 x Marshall Stanmore II • 1 x สายไฟ • 1 x คู่มือการใช้งานเบื้องต้น การเชื่อมต่อ Bluetooth• Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อรวดเร็ว AUX 3.5mm• เชื่อมต่อผ่านแจ๊คขนาด 3.5 มม RCA• เชื่อมต่อผ่านแจ๊ค RCA ที่ด้านหลังเครื่อง ฟังก์ชั่นการใช้งาน ลักษณะการใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้น ลําโพง Marshall Stanmore จะไม่มีแบตเตอรี่สําหรับพกพาครับ ต้องเสียบปลั๊กใช้งานเพียงอย่างเดียว สําหรับการจับคู่เข้ากับอุปกรณ์อื่นๆนั้นสามารถทําได้โดยการกดปุ่ม input ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาทีก็พร้อมที่จะจับคู่แล้วครับ ภายในของลําโพง Marshall Stanmore II จะประกอบไปด้วย tweeter จํานวนสองตัว พร้อมภาคขยายกําลังขับ 15 วัตต์ แยกกันทั้ง 2 channel และ woofer อีกหนึ่งตัวพร้อมภาคขยายกําลังขับ 50 วัตต์เลยทีเดียวครับ คุณภาพเสียง เสียงเบส - เบสที่ให้ปรุงแต่งเพิ่มเติมได้ผ่านปุ่ม EQ แต่รวมๆแล้วแม้ไม่ลูกโตและหนาแต่แลกมาด้วยอิมแพคแรงปะทะที่ทรงพลังฟังสนุกสุดเหวี่ยง เสียงร้อง - เสียงกลางให้เนื้อเสียงที่เข้มข้น มีความเป็นกลาง ไม่หนา หรือ บางจนเกินไปนัก เป็นเสียงร้องที่สดใส สะอาด เสียงแหลม - ย่านเสียงแหลมถือว่าพอดีๆครับ ไม่ด้วนจนฟังแล้วหมดอารมณ์ หรือพุ่งพล่านจนแสบหู เป็นแหลมที่พริ้วไหวฟังสนุกมากๆ เวทีเสียง - การแยกรายละเอียด ของชิ้นดนตรีต่างๆนับว่าเฉียบขาด ไม่มีการซ้อนทับกัน เสตจกว้างกําลังดีฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปพร้อมกับเสียงเพลง รูปทรงวินเทจ วางตรงไหนก็สวย สรุปเกี่ยวกับลําโพง Marshall Stanmore II โดยรวมลําโพง Marshall Stanmore II เป็นลําโพงที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียง แต่ยังมาพร้อมกับความสวยหรู ดูคลาสสิคมากๆครับ ไม่ว่าจะวางในห้องแบบไหนก็เข้ากัน ให้เสียงที่ทรงพลัง ฟังสนุกมากๆเลยครับ สําหรับ Marshall Stanmore II นั้นหากท่านใดที่สนใจ สามารถทดลองฟังได้ที่ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ททุกสาขาได้เลยครับ Marshall

Marshall ลําโพง bluetooth marshall middleton ลําโพง marshall stanmor 3 marshall official store ลําโพงmarshall stanmore ลําโพง fender monterey

CFmax Sanmore lll เป็นเครื่องมือ 1 นําเข้า ประกัน 1 ปีครับ ลําโพง Stanmore III Bluetooth Speaker Stanmore III Bluetooth Speaker ลําโพงบลูทูธรุ่นใหม่ ขวัญใจชาวร็อคที่ดําเนินมาถึงรุ่นที่ 3 กันแล้ว โดยลําโพง Stanmore III จะเป็นลําโพงบ้านไซซ์กลางจากทั้ง 3 รุ่นที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.2 แทนที่รุ่นก่อนหน้าอย่าง Stanmore II ที่ใช้ Bluetooth 5.0 ทําให้เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นกว่าเดิม และมีการเพิ่มปุ่มกดข้ามเพลงก่อนหน้า-ถัดไปให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายยิ่ง Key Highlight ลําโพงบ้านไซซ์กลาง ดีไซน์ตู้แอมป์โฉมใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 Dynamic Loudness คงคุณภาพเสียงไว้ในทุก Volume Placement Compensation ช่วยคํานวณเสียงจากตําแหน่งสําโพง แผงควบคุมทองเหลืองพร้อมกับปุ่ม EQ Knob ในตัว เพิ่มปุ่มกดข้าม - ย้อนกับเพลงบนตัวลําโพง ผลิตขึ้นจากวัสดุ Vegan และวัสดุ Recycled 70% รองรับการใช้งานร่วมกับแอพ รองรับฟีเจอร์ Multi-host และ Broadcast การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 AUX 3.5mm RCA อุปกรณ์ภายในกล่อง 1X ลําโพง Stanmore III Bluetooth Speaker 1X สายไฟ AC Power 1X คู่มือการใช้งาน

สําหรับลําโพง Marshall Stanmore II นั้นเป็นลําโพงตั้งโต๊ะครับ ขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป โดยจะเป็นรุ่นที่มีขนาดอยู่ระหว่างรุ่น Acton II และ Woburn II นั่นเอง มีกําลังขับ 80 วัตต์ ลูกบิดจะมีทั้งหมด 3 อันสําหรับใช้ปรับระดับเสียง, เบส, แหลมครับ ส่วนสวิตซ์เปิด-ปิดดนั้นจะออกแบบใหม่ โดยเป็นแบบสปริงที่จะคืนกลับมาตําแหน่งเดิม เชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 หรือจะเสียบสาย AUX 3.5mm เพื่อใช้งานแบบเสียบสายก็ได้ ซึ่งในรุ่น Stanmore จะมีการเพิ่มช่อง RCA สําหรับเชื่อมต่อที่ด้านหลังเครื่องเข้ามาให้ด้วยครับ ***เครื่องนอกประกันร้าน 90 วัน*** Marshall Cavendish